6. จิตวิทยาในการเทรด

ขณะเทรด จะมีอารมณ์สองอารมณ์ที่พบได้บ่อยและอันตรายกว่าอารมณ์อื่นๆ ซึ่งก็คือความกลัว และ ความโลภ
ความกลัวและความโลภสามารถทำลายได้แม้กระทั่งกลยุทธ์ที่ดีที่สุด
ความกลัวหรือความโลภเพียงชั่วขณะเดียวสามารถนำไปสู่ความบ้าคลั่งและต้องเสียกำไรที่หามาได้อย่างยากลำบากไป
อารมณ์ที่ควบคุมไม่ได้ไม่ควรเป็นข้อแก้ตัวสำหรับการขาดทุนและการขาดทุนไม่ควรเป็นข้อแก้ตัวของอารมณ์ที่ควบคุมไม่ได้
โปรดจำไว้ว่า!! การเทรดจะมีผลต่อจิตวิทยามากเท่าที่จิตวิทยามีผลต่อการเทรด

ความโลภ

“คุณไม่สามารถหาเงินได้ด้วยความโลภ”

• หลายๆ คนคิดว่าความโลภคือการคิดว่าเป้าหมายอย่างเดียวในการเทรดคือการทำเงิน
• ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เป็นความโลภ

ความโลภคือการพยายามทำเงินให้เร็วที่สุด
มีวิธีมากมายที่จะแสดงออกถึงความโลภในการเทรด

• การเทรดในขนาดที่มากเกินไป
• การเทรดบ่อยเกินไป
• การคาดการณ์ที่ไม่สมจริง
• การคิดถึงการเทรดที่ให้กำไรจำนวนมากในครั้งเดียวมากกว่าการที่ยอดสุทธิจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ความกลัว

ความกลัวในการเทรดมีอยู่สองแบบ

• ความกลัวที่จะขาดทุน
• ความกลัวที่จะพลาด

ความกลัวที่จะขาดทุนทำให้ผู้เทรดปิดการเทรดที่สามารถทำกำไรได้เร็วเกินไป ซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะพลาดโอกาสทำกำไร
ความกลัวที่จะพลาดทำให้ผู้เทรดละเลยกลยุทธ์ของตนเพื่อให้ตนเองไม่พลาดการเคลื่อนไหวหลักๆ ทางด้านราคา
ความกลัวไม่ใช่สิ่งที่ดีเนื่องจากนำไปสู่การเทรดที่มากเกินไปและพลาดจุดเข้าและออกในเวลาที่เหมาะสม

ดังนั้น

จงอย่ากลัว!!

การจัดการความเสี่ยงเกี่ยวข้องกับการคำนวณว่าคุณสามารถรับความเสี่ยงได้มากเท่าใดในการทำกำไร

หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเสี่ยงและการจัดการความเสี่ยง โปรดย้อนกลับไปดูที่โมดูล "ความเสี่ยง"

เมื่อเทรด เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เทรดต้องตระหนักถึงความสำคัญในการจัดการความเสี่ยง เนื่องจากสิ่งเหล่านี้จะสอนให้คุณจัดการตนเอง คิดอย่างชัดเจน และเหนือกว่าสิ่งอื่นใด จะช่วยให้คุณควบคุมอารมณ์ของตนเองได้

ต่อไปนี้คือบางสิ่งที่คุณควรนึกถึงเมื่อเทรด

ขนาดการเทรด - เริ่มต้นด้วยการเทรดขนาดเล็ก

เมื่อคุณอาบน้ำอุ่น คุณไม่ได้กระโดดลงไปทันที แต่คุณจะทดสอบอุณหภูมิน้ำด้วยนิ้วก่อน การเทรดก็ไม่ต่างกัน อย่าเข้าไปในตลาดด้วยสถานะทั้งหมดของคุณของคุณ ให้ทดสอบตลาดก่อนด้วยการเทรดในจำนวนที่น้อยกว่าก่อนเข้าซื้อสถานะอย่างเต็มที่

• ขนาดการเทรดที่ใหญ่เกินไปสำหรับบัญชีของคุณอาจก่อให้เกิดการเหวี่ยงของราคาที่มากกว่าปกติและเป็นอันตรายต่อบัญชีและความรู้สึกของคุณ ซึ่งอาจทำให้เกิดความผิดพลาดที่เกิดจากความกลัวหรือความโลภ ตามที่เราได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ การเทรดจะมีผลต่อจิตวิทยามากเท่าที่จิตวิทยามีผลต่อการเทรด
• อย่าลืมว่าการเทรดสามารถผิดพลาดได้ หากคุณกำลังฝันถึงกำไรก้อนใหญ่ด้วยการเทรดปริมาณมาก โปรดจำไว้ว่าการเทรดที่มีความเสี่ยงสูงนี้ยังสามารถทำให้ขาดทุนได้มากเช่นเดียวกันกับกำไรที่คุณฝันถึง

อัตราความเสี่ยง/ผลตอบแทน

ตั้งเป้าหมายไว้ที่อัตราผลกำไร/ขาดทุนอย่างน้อย 3-1 หรือที่แย่ที่สุด 2-1
• ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังตั้งเป้าหมายไว้ที่กำไร 60 PIP การขาดทุนสูงสุดของคุณควรเป็นประมาณ 30 PIP หรือหากขาดทุนสูงสุดที่คุณสามารถรับได้คือ $1000 เป้าหมายทางด้านกำไรของคุณควรเป็นอย่างน้อย $2000
• หากสไตล์การเทรดของคุณเป็นการเข้าออกในตลาดเพื่อกำไรเพียงเล็กน้อยในแต่ละครั้ง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการขาดทุนของคุณก็มีปริมาณเล็กน้อยเช่นกัน

การวางแผนเรื่องอัตราความเสี่ยง/ผลตอบแทนหมายความว่าคุณสามารถเตรียมการรับมือทางด้านอารมณ์สำหรับการขาดทุนที่คุณอาจได้รับ และป้องกันการเทรดโดยใช้อารมณ์ได้

การเทรดโดยใช้อารมณ์ที่ผิดเพียงครั้งเดียวสามารถก่อให้เกิดการขาดทุนมหาศาลจนกำไรจากการเทรดจำนวนมากหายไปทั้งหมด

เป้าหมายด้าน P/L

• คุณควรกำหนดจุดออกไว้ในใจก่อนที่จะเทรด
• คุณควรมีเป้าหมายในเรื่อง P/L ของแต่ละวัน

เมื่อคุณบรรลุเป้าหมายนั้นแล้ว คุณควรหยุดเทรดเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียกำไรให้ตลาด

เป้าหมายในเรื่อง P/L จะช่วยให้สามารถหลีกเลี่ยงความกลัวและความโลภที่ทำให้คุณเทรดจนเกินความสามารถและ/หรือเพิ่มขนาดการเทรดของคุณ

ความผันผวนของตลาด

ในบางเวลาระหว่างวันจะมีความผันผวนมากกว่าช่วงอื่นๆ:

ตอนบ่ายในลอนดอนซึ่งตรงกับช่วงเช้าในนิวยอร์กคือช่วงเวลาที่ผันผวนมากที่สุดของวันสำหรับตลาดส่วนใหญ่ ราคาจะเหวี่ยงแรงรวมถึงกำไรและการขาดทุนด้วย

ระหว่างช่วงเวลาที่ผันผวนสูง จะดีที่สุดหากคุณหลีกเลี่ยงไปก่อนถ้าคุณไม่ใช่ผู้เทรดที่มีประสบการณ์

ต่อไปนี้คือเคล็ดลับเพิ่มเติมในการเทรดที่คุณอาจพบว่ามีประโยชน์

ใช้การจัดการความเสี่ยง

ใช้ Stop Losses และการจำกัด ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณไม่ใช้อารมณ์ในการเทรดและลดความเสี่ยงในการขาดทุนที่ไม่จำเป็นเนื่องจากการยึดติดกับสถานะ

ผู้เทรดจะทำให้การขาดทุนเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากการยึดติดทางอารมณ์จะทำให้พวกเขาหวังว่าราคาจะกลับตัว

• สิ่งที่ยากที่สุดที่ผู้เทรดต้องทำก็คือการปิดการเทรดที่ขาดทุนด้วยตนเอง ดังนั้น การตั้ง Stop Loss ในขณะที่คุณเทรดจะช่วยหลีกเลี่ยงการดำเนินการดังกล่าวได้
• ผู้เทรดมักจะไม่พอใจเมื่อจุด Stop ของตนทำงานแล้วราคากลับตัวขึ้นไป แต่อย่ายกเลิก Stop Loss Order ของคุณเมื่อตั้งไว้แล้ว เนื่องจากคุณได้ตั้ง Stop เมื่อคุณกำลังใจเย็นก่อนที่จะเข้าเทรด แต่ขณะนี้ คุณกำลังเครียดเนื่องจากการเทรดเป็นไปในทิศทางที่คุณไม่คาดคิด

เชื่อการตัดสินใจเก่าของตนเอง!

ปฏิบัติต่อการเทรดเหมือนเป็นธุรกิจ ไม่ใช่งานอดิเรก

คุณจะไม่ลงทุน $10,000 ในธุรกิจโดยใช้แรงกระตุ้น ดังนั้น จงอย่าทำเช่นนี้เมื่อเทรด!

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้เวลาวิจัยตลาดเมื่อไม่ได้เทรด

การเทรดโดยได้รับข้อมูลครบถ้วนจะเป็นสิ่งที่ดีกว่าการเทรดโดยใช้แรงกระตุ้นเสมอ

ความอดทน

ความอดทนเป็นคุณสมบัติที่ดีในการเทรด ซึ่งแตกต่างจากการเทรดโดยไม่ใช้ความกลัว
ความอดทนหมายถึง…

• …การรอคอยให้ราคาเป็นไปตามเครื่องมือวิเคราะห์ก่อนที่จะเทรด
• …การรอคอยหลายชั่วโมงหากจำเป็นเพื่อเข้าสู่ตลาดในเวลาที่เหมาะสม การเทรดให้มีกำไรเป็นสิ่งที่สำคัญ ไม่ใช่เพียงจำนวนการเทรดต่อวันเท่านั้น
• …อย่ารีบเข้าไปแล้วเทรด เพียงเพราะคุณได้เห็นว่าราคากำลังปรับตัวหรือคุณรู้สึกเบื่อ
• …อย่าเทรดโดยใช้เคล็ดลับ คุณจะพบว่ามีความเห็นที่แตกต่างกันมากมาย แม้กระทั่งในผู้ที่เราเรียกว่าผู้เชี่ยวชาญ ค้นหาข้อมูลด้วยตนเองก่อนที่จะเทรด

การหลีกเลี่ยงคือการตัดสินใจที่ถูกต้อง

การเทรดเกินความสามารถ

• การเทรดเกินความสามารถเป็นความผิดที่พบได้บ่อยในผู้เทรดมือใหม่เนื่องจากพวกเขาจะพยายามจับทุกการเคลื่อนไหวของราคาเล็กๆ น้อยๆ ทั้งหมด
• เมื่อราคาปรับตัวลดลง พวกเขาจะขาย และเมื่อราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น พวกเขาก็จะซื้อ ในการดำเนินการเช่นนั้น พวกเขาจะกำลังไล่ตามตลาดและจะแพ้ตามปกติ

เรียนรู้ที่จะคาดการณ์ถึงความเคลื่อนไหวของราคา ไม่ใช่เพียงแค่ซื้อขายตามราคา

กรอบเวลา

• การเทรดในระยะสั้นจะต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งและต้องใช้วินัยกับสมาธิเป็นอย่างมาก ดังนั้น โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณพร้อมรับมือกับความพยายามเช่นนี้ และสามารถเทรดได้โดยไม่ไขว้เขว
• การเทรดในระยะยาวไม่จำเป็นต้องตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอและเหมาะสำหรับผู้เทรดที่มีข้อผูกมัดอื่นๆ มากกว่า

การจัดการกับการเทรดที่ขาดทุน

เรียนรู้ที่จะรับมือกับการขาดทุน

เป็นคำที่มักจะได้ยินบ่อยๆ ในวงการเทรด และหากคุณไม่ได้เรียนรู้ที่จะยอมรับการขาดทุน อาชีพในการเทรดของคุณอาจจะอยู่ได้สั้นมาก

ดังนั้น "เรียนรู้ที่จะรับมือกับการขาดทุน" หมายถึงอะไร คำๆ นี้ หมายความว่าคุณควรทำความเข้าใจว่าเหตุใดคุณจึงเทรดแล้วขาดทุน

• คุณอ่านเครื่องมือวิเคราะห์ผิดหรือไม่
• คุณพลาดอ่านข่าวสารที่สำคัญเกี่ยวกับข้อมูลทางเศรษฐกิจหรือไม่

บางครั้ง การเทรดที่ขาดทุนก็ไม่ใช่ความผิดของคุณ ตัวอย่างเช่น เหตุการณ์ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ เช่น การโจมตีจากผู้ก่อการร้ายอาจทำให้ตลาดปรับตัว แต่…

การเทรดที่ขาดทุนหลักๆ นั้นเกิดขึ้นจากการที่ผู้เทรดตัดสินใจโดยใช้แรงกระตุ้น

• ในการลดผลกระทบของการขาดทุนจากทางจิตวิทยา ให้จำกัดความของการขาดทุนจากความล้มเหลวขึ้นใหม่เพื่อสร้างโอกาสในการเรียนรู้
• อย่าโทษว่าการขาดทุนของคุณเป็นเพราะตลาด เนื่องจากตลาดไม่ได้มีหน้าที่ต่อคุณ แต่ให้พิจารณากลยุทธ์ของคุณและปรับให้เหมาะสม

เทรดตามสิ่งที่ตลาดกำลังเคลื่อนไหว ไม่ใช่ตามที่คุณคิดว่าตลาดควรจะเป็น แนวโน้มและสภาพตลาดสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากลยุทธ์ของคุณก็เปลี่ยนแปลงไปตามนั้น

การทำกำไร

ตัดส่วนที่ขาดทุนและปล่อยให้กำไรเพิ่มขึ้น

• อย่าทำกำไรเร็วจนเกินไปเพราะความกลัว ความกลัวทำให้จิตใจเกิดคำถามและมีการตอบสนองเพื่อทำกำไรไม่ว่าจะเป็นกำไรเล็กน้อยเพียงใด แม้ในขณะที่การเทรดยังคง “ปลอดภัย”
• ในทางกลับกัน อย่าปล่อยให้การเทรดที่มีกำไรกลายเป็นขาดทุน
ตั้งกฎให้ตนเองปฏิบัติตาม ปิดการเทรดหากตลาดกลับตัว 20% จากเป้าหมายด้านกำไรของคุณ ซึ่งทำให้คุณสามารถตรวจสอบให้แน่ใจได้ว่าคุณสามารถควบคุมอารมณ์ของคุณได้เมื่อเทรด
• ทำความเคยชินในการทำกำไร “อย่างรวดเร็ว” ยกเว้นในสถานการณ์พิเศษ
• อย่าทรมานตนเองหากการเทรดไม่ปรับตัวไปตามที่คุณคาด  ความผิดที่พบได้บ่อยก็คือการปิดสถานะที่ได้กำไรและเก็บสถานะที่แสดงการขาดทุนไว้

การสร้างยอดสุทธิของบัญชี

อย่าพยายามที่จะสร้างความร่ำรวยจากการเทรดเพียงครั้งเดียว เพราะคุณจะไม่พึงพอใจเลยหากคุณคาดการณ์อย่างไม่สมจริง

• วัตถุประสงค์เพื่อทำให้บัญชีของคุณมีความมั่นคง
5% ต่อวันเป็นผลตอบแทนที่มาก
• โปรดจำไว้ว่าคุณจะต้องพบกับช่วงเวลาที่หุ้นปรับตัวลดลงหรือเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ
หากคุณเสียติดกันสามวัน ควรหยุดเทรดอย่างน้อยหนึ่งวันเพื่อทบทวนตนเอง

แล้วใช้เวลานี้เพื่อประเมินกลยุทธ์ของคุณอีกครั้งและวิเคราะห์ตลาด

โดยสรุปแล้ว อย่าประเมินพลังของอารมณ์ต่ำเกินไป…

ควบคุมการเทรดของคุณ อย่าให้การเทรดควบคุมคุณ